![]() |
Biogang Database
Bio Diversity (พืช) |
ทุเรียนเป็นไม้ผลยืนต้นขนาดใหญ่ชอบอากาศร้อนชื้น อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ในช่วง 25 - 30 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์สูงประมาณ 75 -85 % ดินที่เหมาะสมควรระบายน้ำดีและมีสภาพความเป็นกรดเป็นด่าง (ค่า pH) ประมาณ 5.5 - 6.5 และที่สำคัญควรเลือกแหล่งปลูกที่มีน้ำเพียงพอตลอดช่วงหน้าแล้ง ทุเรียนจะให้ผลผลิตหลังการปลูก 5 - 6 ปี ช่วงอายุที่ให้ผลผลิตสูงประมาณ 10 ปีขึ้นไป ผลผลิตประมาณ 80 - 110 ผล/ต้น หรือประมาณ 240 -320 กก./ตัน/ปี (คิดน้ำหนักเฉลี่ยผลละ 3 กก.) ทุเรียนเป็นไม้ผลที่มีระบบรากหาอาหารตื้นโดยอยู่ลึกจากผิวดินประมาณ 20 -30 เซนติเมตร จึงต้องการช่วงแล้งเพื่อให้เกิดสภาพเครียดก่อนออกดอกไม่นานนัก ต้นทุเรียนที่สมบูรณ์มีใบยอดแก่ ผ่านช่วงแล้งเพียง 10 -14 วัน และมีอากาศหนาวเย็นลงเล็กน้อย ทุเรียนจะออกดอก ระยะพัฒนาของดอก (ระยะไข่ปลา - ดอกบาน) ใช้เวลาประมาณ 55 - 60 วัน ระยะพัฒนาของผล (จากดอกบาน - เก็บเกี่ยว) จะแตกต่างกันในแต่ละพันธุ์ เช่น กระดุม 12 - 13 สัปดาห์ หรือประมาณ 90 วัน ชะนี 15 -16 สัปดาห์ หรือประมาณ 110 วัน หมอนทอง 18 - 19 สัปดาห์ หรือประมาณ 130 วัน อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บรักษาผลผลิต 14 -16 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 85 - 95 % เก็บรักษาทุเรียนได้นานประมาณ 2 สัปดาห์ ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า 14 องศาเซลเซียส จะเกิดอาการ chilling injury ฤดูกาลของผลผลิตทุเรียนภาคตะวันออก คือ เมษายน - มิถุนายน และภาคใต้ คือ มิถุนายน -สิงหาคม
การขยายพันธุ์ทุเรียน
คุณค่าทางโภชนาการ
ทุเรียน นอกจากจะมีรสชาติอร่อยมากแล้วยังให้คุณค่าทางโภชนาการสูง ทั้งในด้านไขมันที่ให้พลังงาน โปรตีน คาร์โบไฮเดรตและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายมาก ในปริมาณเนื้อทุเรียน 100 กรัม สำหรับพันธุ์ก้านยาวให้พลังงานมากที่สุด คือ 181 กิโลแคลอรี ส่วนพันธุ์หมอนทองซึ่งเป็นที่นิยมของคนส่วนใหญ่จะให้พลังงาน 156 กิโลแคลอรี เนื้อทุเรียนให้ธาตุอาหารหลายชนิด ได้แก่ ไนโตรเจน แคลเซียม ฟอสฟอรัส แมงกานีส โพแทสเซียม และกำมะถัน
ประโยชน์ของทุเรียนตามแพทย์แผนไทย
เนื้อสีเหลือง รสหวานร้อน ทำให้เกิดความร้อน แก้โรคผิวหนัง ทำให้ฝี-หนอง แห้ง เนื้อทุเรียนมีฤทธิ์ขับพยาธิ
เปลือกหนาม รสเฝื่อน สับแช่ในน้ำปูนใสใช้ชะล้างแผลที่เกิดจากน้ำเหลืองเสีย แผลพุพอง เผาทำถ่าน บดจนเป็นผง คลุกในน้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันงา ลดความบวมพองจากคางทูม และเผาเอาควันไล่ยุงและแมลง
ใบทุเรียน รสเย็นและเฝื่อน ใช้ต้มน้ำอาบแก้ไข้ แก้ดีซ่านและเป็นส่วนผสมในยาขับพยาธิ
รากจากต้น ตัดเป็นข้อ ๆ ต้มให้เดือด ดื่มบรรเทาอาการไข้และรักษาอาการท้องร่วง
สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ก็ต้องระมัดระวังเรื่องการรับประทานทุเรียน เพราะการรับประทานมากเกินไปก็จะเป็นผลเสียและเป็นโทษแก่ร่างกาย ขอย้ำว่า ถ้ารับประทานในปริมาณที่พอเหมาะจะเพิ่มรสชาติและความสุขให้กับชีวิต
การเลือกซื้อทุเรียน ควรดูว่าทุเรียนผลใดแก่จัด โดยดูได้จากก้านผลแข็งสีเข้ม ปลายหนามแห้ง เปราะ สีน้ำตาลเข้ม และมีร่องหนามห่าง รอยแยกระหว่างพูเห็นชัด หากลองเคาะดู เสียงจะดังหลวม ๆ โปร่ง ๆ หากตัดขั้วผลออกจะมีน้ำใส ๆ ซึ่งมีรสหวาน ที่สังเกตง่ายมากคือ ทุเรียนที่ผลสุกรับประทานได้จะมีกลิ่นหอมแรงขึ้นตามลำดับ โดยทั่วไป ทุเรียนดีจะมีลักษณะเนื้อมาก เนื้อละเอียดสีเหลืองเข้ม เกาะกันเป็นพู คงรูป ไม่เละ ถึงสุกงอมก็ไม่แฉะ กลิ่นน้อย เมล็ดลีบ รสหวานอร่อย
??++**ทุเรียน กินอย่างไรไม่อ้วน** ++??
คงสงสัยกันสิคะว่า กินกันอย่างไรล่ะที่ไม่ให้อ้วน
ตำราไทยบอกไว้ให้กินเป็นยาถ่ายพยาธิปฏิบัติไม่ยากเลยค่ะ ง่าย ๆ เพียงแค่ตื่นนอนตอนเช้า ๆ ยามรุ่งอรุณ ก็ราว ๆ ประมาณ 5.00 น. หลังจากล้างหน้า แปรงฟัน เรียบร้อย เริ่มกินทุเรียนได้ทันที กินพอประมาณ อาจสักครึ่งลูกย่อม ๆ หรืออาจมาก-น้อยกว่านั้น ตามน้ำหนัก ไม่ใช่กินเพื่ออิ่ม แต่กินเป็นยา แล้วดื่มน้ำ ควรกินสองวันติดต่อกัน และงดอาหารในทั้งสองเช้านั้น ความร้อนในสารกำมะถันธรรมชาติ และกากใยจากพูทุเรียน จะออกฤทธิ์ชำระล้างขยะในลำไส้ออกได้อย่างเกลี้ยงเกลา รวมทั้งเป็นยาถ่ายพยาธิต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นยาถ่ายในผู้ป่วยน้ำเหลืองเสีย ซึ่งมักเกิดแผลจากแมลงกัดอยู่เสมอ
การขจัดกลิ่นทุเรียน
ทุเรียนเป็นของชอบของทุกคน แต่ปัญหาเรื่องกลิ่นของทุเรียนเป็นปัญหาใหญ่ของทุกคนเหมือนกัน วันนี้จะแนะนำวิธีการกำจัดกลิ่นของทุเรียนให้หมดไปโดยที่ไม่ต้องไปพึ่งสารเคมีใด ๆ ทั้งสิ้น คือเมื่อท่านรับประทานทุเรียนเสร็จแล้วให้เอาน้ำใส่ในเปลือกทุเรียนที่ท่านรับประทาน แล้วดื่มน้ำในเปลือกทุเรียนนั้น แล้วใช้ล้างมือ บ้วนปาก กลิ่นปากของท่านจะไม่มีกลิ่นของทุเรียนอีกเลย ลมในท้องที่ระบายออกมาทางปากก็จะไม่มีกลิ่นทุเรียน ท่านไม่ต้องกังวลกับกลิ่นทุเรียนอีกต่อไป
ถ้าหากท่านต้องการนำทุเรียนทั้งผลไปฝากญาติพี่น้อง โดยต้องเดินทางด้วยรถปรับอากาศ กลิ่นก็จะเข้าไปในห้องปรับอากาศ รบกวนคนอื่น วิธีแก้ก็คือ ให้ท่านใช้มีดปาดหนามของทุเรียนออกให้หมด จนเหลือทุเรียนลูกกลม ๆ เหมือนลูกฟุตบอล กลิ่นของทุเรียนก็จะหมดไป
สถานที่พบ: บ้านชำสมอ ตำบล: ทุ่งควายกิน อำเภอ: แกลง จังหวัด: ระยอง |